Skip to content
The Rookie Mom คุณแม่มือสมัครเลี้ยง

แม่กินของอร่อยสักครั้งแสนยินดี แต่พอลูกจะกินสักที ทำไมเครียด!

ของอร่อยเป็นใครใครจะไม่ชอบ แต่ของอร่อยเมื่อตกอยู่ในมือเด็กแต่ละครั้ง คุณแม่เองก็น่าจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่า จะให้ลูกกินดีหรือไม่กินดี เพราะมันมีความกังวลหลายอย่างว่า จะส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ จะทำให้ติดหวานไหม หรือมีไขมันมากเกินไปหรือเปล่า นิดนกเลยขอแชร์มุมตัวเองให้เหล่าแม่ๆ หลายคนได้รู้ถึงการรับมือกับการกินของตัวเองในขณะตั้งครรภ์ และการกินของลูก ว่าจะกินอย่างไรให้มีคุณภาพและได้รับประโยชน์สูงสุด

 

แม่ตั้งท้อง ต้องดูให้ดีว่า โอเค กินได้

     ตอนท้องหลายคนจะมีคำถามตามมามากมาย อันนี้กินได้ไหม ขณะที่มีอีก 1 ชีวิตในท้อง อย่างชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ บางประเทศทางแถบตะวันตก คนท้องอาจกินแอลกอฮอล์ได้ แต่พอมาอยู่ในบริบทวัฒนธรรมเอเชียบ้านเรา หลายอย่างอาจถูกปัดตกไป การไม่กินของที่ดูส่งผลลบเหล่านี้ น่าจะส่งผลดีต่อลูกที่อยู่ในท้องมากที่สุด หรือถ้าให้ยกตัวอย่างสิ่งที่มีผลกระทบต่อแม่แน่ๆเลยคือ การกินของหวาน เพราะช่วงท้อง อาจมีภาวะเบาหวานในหญิงตั้งครรภ์ จึงทำให้แม่ๆ หลายคนต้องควบคุมการกินของตัวเอง เพื่อไม่ให้มีปริมาณน้ำตาลสูง

 

ลูกคลอดออกมา นมแม่คืออาหารมื้อแรก

     สิ่งที่แม่ควรแคร์หลังจากกินอาหารต่างๆ เข้าไปแล้วก็คือ สารอาหารที่จะผ่านมาตามน้ำนมแม่ เพราะอย่าลืมว่า น้ำนมจะเป็นปราการด่านแรกที่จะส่งต่อไปให้ลูกยามหิว ซึ่งจะมีบางข้อมูลที่พูดว่า หากลูกแพ้อะไร ก็น่าจะมีผลมาจากการที่แม่กินสิ่งเหล่านั้นในปริมาณที่มากเกินไป โดยมีข้อมูลอาหารที่เป็น 5 อันดับที่ลูกจะแพ้มากที่สุดก็คือ แป้งสาลี ถั่ว นม เครื่องปรุง และอาหารทะเล แต่บางข้อมูลก็บอกว่า เรื่องน้ำนมแม่อาจไม่เกี่ยวข้องกับอาหารที่แม่กินเข้าไปเลย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย แม่ควรกินอาหารในปริมาณที่พอดี เหมาะสม และครบ 5 หมู่ อันเป็นการช่วยให้น้ำนมที่ออกมาให้ลูกดื่มนั้นมีคุณภาพ

 

ลูกกินอาหารเอง ต้องลองทดสอบก่อน

     จากประสบการณ์ของนิดนก ช่วง 4 เดือนแรกลองให้กินข้าวบดและผักต้มหั่นเล็กชนิดต่างๆ ก่อน เพื่อเป็นการทดสอบการกินและการย่อยว่า ลูกรับมือกับอาหารเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน และที่สำคัญกว่านั้นคือ การทำอาหารต่างๆ อาจต้องผ่านกรรมวิธีทำให้สุกในทุกอย่าง เพื่อให้ถูกสุขลักษณะ และเน้นการปรุงอาหารให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้ลูกติดรสชาติมากจนเกินไป และให้รับรู้รสชาติที่มาจากธรรมชาติจริงๆ 

     เมนูช่วงแรกที่นิดนกทำ นอกจากข้าวบดและผักต้มหั่นเล็กแล้ว ยังมีผักนึ่ง หมูสับปั้นก้อน
และขนมปังชิ้นเล็กๆ อันเป็นการปรับสภาพการกินของเด็ก พร้อมกับไม่ให้ไตทำงานหนักจนเกินไปจากรสเค็มที่ปรุง และเป็นการสร้างนิสัยการกินของเขาให้กินอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

 

แคร์เรื่องกินลูกมากไป ลูกอาจไม่เป็นสุข

     สิ่งหนึ่งที่แม่ต้องเรียนรู้หลังจากที่ลูกเติบโตคือ เขาไม่ใช่ของเราแล้ว เขาจะค่อย มีชีวิต และมีอะไรให้ตัดสินใจมากขึ้นในทุกวัน ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบตัดสินไปก่อนว่า ลูกจะติดรสชาติ ลูกจะเลือกกินแต่ของอร่อย ควรให้ลูกได้ลองให้ครบหมดทุกอย่าง เพื่อให้ลูกได้ปรับจูนสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากไปบังคับหรือกะเกณฑ์เกินไป ลูกอาจไม่มีความสุขในการกิน จนพาลให้กินยากไปเลยก็ได้ 

     อย่าง “น้องณนญ” ลูกของนิดนกเอง ก็ชอบกินขนมไทยมาก อย่างที่รู้กันว่าขนมไทยบางชนิดมักมีรสหวานจัด ก็แอบเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย จึงต้องคอยดูแลให้กินในปริมาณที่พอเหมาะ หรืออย่างนมก็เป็นอาหารหนึ่งที่เห็นได้ชัด เพราะนม ของหวาน หรือวิตามิน มักจะเป็นอาหารเสริมมากกว่าที่จะเป็นอาหารมื้อหลัก ดังนั้นแล้ว คุณแม่จำเป็นต้องดูแลอาหารการกินที่เป็นมื้อหลักให้มีประสิทธิภาพ และค่อยเติมตัวเลือกอย่างผลไม้ นม และของหวานเข้าไป เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนมากขึ้น

 

ไมโล คือตัวเสริมที่ดี

     ไม่มีอาหารใดที่ครบวิเศษไปทั้งหมด อาจต้องมีเพิ่มหรือเสริมให้กับร่างกายเด็กเข้าไป หนึ่งในตัวเสริมที่ดีที่นิดนกคิดว่า ตอบโจทย์เหล่าคุณแม่ทั้งหลาย นั่นคือ “ไมโลสูตรน้ำตาลน้อยกว่า” เพราะด้วยคุณค่าจากมอลต์ นม และโกโก้ ที่มีแคลเซียมสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน พร้อมกับ
มีโปรตีน 5,000 มิลลิกรัม จึงทำให้สารอาหารดังกล่าว เสริมสร้างพลังให้ลูกได้อย่างเต็มกำลัง

     นอกจากนี้ ยังเป็นสูตรน้ำตาลน้อยกว่า ทำให้แม่ๆ หายห่วงเรื่องน้ำตาลที่ลูกจะได้รับเพราะน้ำตาล 2 ใน 3 จากปริมาณทั้งหมดเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ กล่าวคือ ปริมาณน้ำตาลทั้งหมด 12 กรัม ประกอบด้วยแลคโตสจากนม 7 กรัม มอลโตสจากมอลต์สกัดจากข้าวบาร์เล่ย์ 1 กรัม และน้ำตาลทรายแค่ 4 กรัม ทำให้ได้รสชาติที่หวานน้อยลง แต่ยังคงอร่อยกลมกล่อมแบบไมโล ถูกใจคนชอบรสชาติหวานน้อย ทำให้ไมโลกลายเป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์ที่เป็นทางเลือกให้กับคุณแม่ ที่อยากหาอะไรอร่อยๆ ให้ลูกทาน แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้เป็นของกินที่มีประโยชน์ต่อลูกในทุกๆวันด้วย ขนาดนิดนกเองยังให้ลูกพกไปกินตอนไปรับวัคซีนกับคุณหมอด้วยเหมือนกัน

 

ประนีประนอม+สร้างทักษะ = ทางออกเรื่องการกินของลูก

     อย่างที่บอกไปว่า เราบังคับลูกตลอดไปไม่ได้ เขาต้องมีหนทางและชีวิตของเขา หรือต่อให้บังคับได้ ก็ไม่ใช่ตลอดไป เพราะเขาต้องเห็นหรือรับรู้ทางเลือกอื่นอยู่เรื่อยๆ ฉะนั้น สิ่งที่แม่ๆ จะทำได้คือ ผ่อนคลายหัวใจของแม่ลงมา ประนีประนอมเรื่องการกินของลูกบ้าง รวมถึงสร้างความสามารถในการควบคุม และกำกับตัวเองให้กับลูกด้วย ซึ่งทักษะนี้เป็นหนึ่งในทักษะ EF หรือ Executive Functions โดยให้เขารู้ว่า อะไรดี อะไรเหมาะควรกับตัวเอง เพื่อเป็นทักษะที่ช่วยเสริมสร้างสุขนิสัยในการกินที่ดีให้กับเด็กๆ ในอนาคตต่อไป

ฟัง The Rookie Mom คุณแม่มือสมัครเลี้ยง ได้ที่..
More Episode